นักโบราณคดีฮือฮา เจอมัมมี่ลิ้นทอง อายุ 2,000 ปี ใต้วิหารในอียิปต์ พร้อมกับมัมมี่อีก 15 ร่าง ชี้เป็นการค้นพบสำคัญ เชื่ออาจเป็นที่ฝังร่างพระนางคลีโอพัตรา
วันที่่ 2 กุมภาพันธ์ 2564 บีบีซี รายงานว่า ทีมนักโบราณคดีอียิปต์และโดมินิกัน ที่ร่วมกันทำงานในพื้นที่วิหารทาโปไซริส แม็กนา (Taposiris Magna) เมืองอเล็กซานเดรีย ทางตอนเหนือของประเทศอียิปต์ ขุดพบสุสานที่ฝังมัมมี่ 16 ร่าง ในสภาพไม่สมบูรณ์ โดยเป็นสุสานที่เจาะเข้าไปในภูเขาหรือหน้าผา (rock-cut tomb) ซึ่งเป็นที่นิยมสำหรับการทำมัมมี่ในยุคกรีกและโรมัน จึงเชื่อว่ามัมมี่เหล่านี้ เคยมีชีวิตอยู่ในช่วงยุคสมัยเมื่อ 2,000 ปีก่อน
กระทรวงการท่องเที่ยวและโบราณวัตถุของอียิปต์ ประกาศการค้นพบเมื่อวันที่ 29 มกราคม ที่ผ่านมา โดยเผยว่า มัมมี่ร่างหนึ่ง พบว่ามีลิ้นเป็นทองคำ ทางทีมนักโบราณคดีเชื่อว่า นักบวชและผู้ดองศพได้วางเครื่องรางทองคำที่มีรูปร่างเหมือนลิ้นไว้ในปาก เพื่อที่ผู้ตายไปจะได้สนทนากับเทพเจ้าโอซิริสในปรโลก ซึ่งชาวอียิปต์โบราณเชื่อว่า โอซิริสเป็นเจ้าแห่งยมโลกและเป็นผู้พิพากษาคนตาย
นอกจากนี้ยังพบมัมมี่ร่างอื่นที่น่าสนใจอีก ได้แก่ มัมมี่ร่างหนึ่งที่ผ้าห่อชั้นในทำจากปูนปลาสเตอร์ ผ้าลินิน และกาว พบว่ามีการวาดตกแต่งด้วยภาพเทพเจ้า
ขณะที่ผ้าห่อมัมมี่อีกร่าง มีการตกแต่งปิดทองบริเวณรอบศีรษะเป็นภาพมงกุฎ เขาสัตว์ และงูเห่า ส่วนที่บริเวณหน้าอกเป็นภาพสร้อยคอประดับหัวเหยี่ยว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเทพเจ้าฮอรัส เทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์ของอียิปต์
และมัมมี่อีกร่างสวมหน้ากากแห่งความตายผู้หญิง ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยปกป้องดวงวิญญาณหลังความตาย และจะนำทางวิญญาณของผู้ตายกลับสู่ร่าง
ทั้งนี้ ทางกระทรวงฯ เผยว่า ก่อนหน้านี้มีการพบเหรียญจำนวนหนึ่งที่มีชื่อและรูปของพระราชินีคลีโอพัตราที่ 7 ภายในพระวิหารดังกล่าว ทำให้นักโบราณคดีบางส่วนเชื่อว่า วิหารแห่งนี้อาจเป็นสุสานที่ฝังร่างพระนางคลีโอพัตราที่ 7 ราชินีองค์สุดท้ายแห่งอียิปต์โบราณ และเป็นเชื้อพระวงศ์องค์สุดท้ายของราชวงศ์ทอเลมี ที่ปกครองอียิปต์ตั้งแต่ 51-30 ปีก่อนคริสตกาล ก่อนที่จะสิ้นชีพ หลังจากนั้นอียิปต์ก็ตกอยู่ภายใต้การปกครองของจักรวรรดิโรมัน
ขอบคุณข้อมูลจาก bbc.com, businessinsider.com
https://hilight.kapook.com/view/210670
