Wednesday, February 22, 2017

นาซา แถลงการค้นพบครั้งใหม่ ดาวเคราะห์ 3 ดวงเอื้อต่อการมีสิ่งมีชีวิต




  นาซา แถลงการค้นพบครั้งใหม่ พบระบบสุริยะที่ใกล้เคียงกับโลก พร้อมดาวเคราะห์อีก 7 ดวง ซึ่ง 3 ดวงนั้นเอื้อต่อการมีสิ่งมีชีวิต

          เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2560 องค์การนาซา ได้มีการแถลงการค้นพบครั้งสำคัญ ว่า สามารถค้นพบระบบสุริยะใหม่ ซึ่งคล้ายกับระบบสุริยะของโลก อีกทั้งยังมีดาวเคราะห์ 7 ดวงที่มีขนาดใกล้เคียงโลกมาก ซึ่ง 3 จาก 7 ดวงนั้น เอื้อต่อการมีสิ่งมีชีวิตอยู่

          ขณะเดียวกัน ระบบสุริยะใหม่ที่ค้นพบนั้น อยู่ห่างจากโลกประมาณ 39 ปีแสง

https://hilight.kapook.com/view/149562

เนียนมากนะเนี่ย งูตบตานักล่าไม่ให้ถูกกิน ทำแกล้งตายนอนหงายท้องแหงแก๋




        เอารางวัลออสการ์ไปเลย ! เปิดภาพงูจมูกหมูจอมฉลาด แกล้งตายหลอกนักล่าไม่ให้มากิน งานนี้เนียนมากจนรอดตาย

         การแกล้งตายเป็นสิ่งที่สัตว์หลายชนิดทำในธรรมชาติ ซึ่งทำไปเพื่อเป็นการเอาตัวรอด หลอกนักล่าให้คิดว่าตัวเองเป็นศพแล้วเดินผ่านไป งูตัวนี้ก็เป็นสัตว์อีกชนิดหนึ่งที่ทำทีแกล้งเป็นว่าตายเพื่อไม่ให้ถูกกิน แต่ใครจะคาดคิดว่าสกิลการแกล้งตายของมันนั้นมีความสมจริงระดับมือโปร

         งูนักแสดงตัวนี้คืองูอีสท์เทิร์น ฮอกโนส (Eastern Hognose) หรือมีชื่อเรียกเป็นภาษาไทยว่างูจมูกหมู มันเป็นงูลำตัวกลมป้อมหน้าตาน่ารักที่แกล้งตายได้อย่างเก่งกาจ จากการรายงานของเว็บไซต์มิเรอร์ เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2560 ระบุว่า งูตัวนี้อาศัยอยู่ที่รัฐเทกซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อมันเห็นว่ามีแมวผ่านเข้ามาใกล้และคิดว่าตัวเองต้องตกเป็นเหยื่อแน่ ๆ แล้ว มันก็เริ่มบิดตัวไปมาราวกับว่ากำลังเจ็บปวด พลิกตัวนอนหงายท้อง อ้าปากแลบลิ้น แถมยังส่งกลิ่นเหม็นเน่าออกมาจากตัว


       มันเล่นใหญ่อยู่แบบนั้นจนกระทั่งแน่ใจว่าแมวจอมโหดคิดว่ามันตายจนเน่าไปแล้วแน่ ๆ และเมื่อแมวจากไปแล้วมันก็คลายตัวออก คืนสู่สภาวะปกติ กลับมาเป็นงูน่ารักเหมือนเดิม

         การเล่นละครฉากใหญ่นี้มีมนุษย์รายหนึ่งบังเอิญได้เป็นผู้ชมด้วย เขาคนนั้นคือ เคนเนธ กีซี ช่างภาพที่ติดตามถ่ายภาพชีวิตสัตว์มาตั้งแต่ปี 2552 เคนเนธเล่าว่าตอนที่เขาเห็นงูตัวนี้ เขาเพิ่งออกจากร้านค้าและกำลังเดินกลับบ้าน ในระหว่างทางเขาสังเกตเห็นแมวจรจัดตัวหนึ่งแอบซุ่มอยู่ในกอหญ้าใกล้ ๆ เขาคิดว่าแมวตัวนี้อาจจะเจอตัวอะไรสักอย่างซึ่งน่าจะเป็นงู เมื่อเดินไปสำรวจดูใกล้ ๆ ก็พบเจ้างูจมูกหมูตัวนี้นอนหงายท้องอยู่


       "ตอนแรกผมก็คิดนะว่า เอ๊ แมวมันเห็นงูแน่ ๆ เลยเดินไปดูให้แน่ใจ แล้วก็เห็นเจ้างูแสนสวยตัวนี้ สำหรับสัตว์แล้ว คุณจะเห็นสัตว์ชนิดหนึ่งล่าสัตว์อื่น ๆ เป็นเรื่องธรรมดา แต่บางครั้งคุณก็เห็นพวกมันทำอะไรตลก ๆ ทำอะไรที่ดูขนลุก หรือแม้แต่ทำเรื่องที่เห็นแล้วอบอุ่นใจ " เคนเนธ กล่าวถึงการค้นพบเจ้างูตัวนี้


         เคนเนธกล่าวว่า สัตว์โลกล้วนปรับตัวอยู่เสมอ มันเรียนรู้ที่จะเอาชีวิตรอดในสถานการณ์ต่าง ๆ งูเป็นสัตว์ชนิดหนึ่งที่เอาตัวรอดในเก่งกาจในหลายสถานการณ์ มันมักจะแกล้งตายอยู่เสมอ แต่สำหรับสายพันธุ์ที่เล่นละครตบตาว่าตายได้แนบเนียนที่สุดต้องยกให้งูจมูกหมู

 
         "เห็นได้ชัดเลยว่ามันเก่งมากจริง ๆ แถมยังส่งกลิ่นเน่าหลอกได้เนียนสุด ๆ นักล่าที่ไหนจะอยากเขมือบงูตายแห้ง ๆ เน่า ๆ แบบนี้ล่ะจริงไหม" เคนเนธ กล่าว



https://hilight.kapook.com/view/149537

Sunday, February 19, 2017

เสือหรือหมู! ชาวเน็ตจีนสุดขำ แห่แชร์ภาพเสือโคร่งตัวอ้วนกลม



 

สวนเสือจีนแจงกรณีที่องค์พิทักษ์สัตว์เผยแพร่ภาพเสือโคร่งไซบีเรียของสวนเสือแห่งหนึ่งในเมืองฮาร์บิน ประเทศจีน ที่อยู่ในสภาพจ้ำม่ำ อ้วนเผละ ไร้ความน่าเกรงขามจนดูเหมือนกับแมวอ้วน เจ้าหน้าสวนเสืออ้างว่า ในฤดูหนาวของทุกปี สวนเสือแห่งนี้จะให้อาหารพวกมันเพิ่มขึ้นจากเดิมถึงร้อยละ 10 เพื่อให้พวกมันสามารถสร้างชั้นไขมันที่หนาขึ้น พร้อมรับอากาศหนาวได้ นอกจากนี้ ช่วงตรุษจีนที่ผ่านมา บรรดานักท่องเที่ยวยังพากันมาเยี่ยมชมและให้อาหารเหล่าเสืออีกด้วย









โพสต์โดย yves เมื่อ 19 ก.พ. 60 19:14:01
http://world.kapook.com/pin/58a98c094d265ae7278b4567

Wednesday, February 15, 2017

โชคดีสุด ๆ เจ้าตูบถูกปล่อยทิ้งปั๊มน้ำมัน ชะตาพลิกผัน ได้ชีวิตใหม่ แถมยังได้งานทำอีก




          เผยเรื่องราวของ เจ้าเนเกา ตูบชะตาพลิกผัน หลังจากถูกเจ้าของมาปล่อยทิ้งไว้ที่ปั๊มน้ำมัน ได้มีชีวิตใหม่แถมมีงานทำ จนตอนนี้กลายเป็นพนักงานปั๊มที่น่าเอ็นดูที่สุดไปแล้ว

          เจ้าเนเกา ตูบสีดำน่าสงสาร ถูกเจ้าของคนเก่านำมาปล่อยทิ้งไว้ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในเมืองโมฌีดัสกรูซิส รัฐเซาเปาลู ประเทศบราซิล กระทั่งซาบรีน่า แพลนเนอร์เอร์ และหุ้นส่วนของเธอ มาซื้อต่อกิจการปั๊มน้ำมันแห่งนี้ จึงได้พบกับเจ้าเนเกา เดินเตร็ดเตร่เป็นสุนัขจรจัด เลยเกิดปิ๊งไอเดียน่ารัก ๆ ขึ้นมา เห็นแล้วชวนน่าประทับใจอย่างที่สุด โดยเว็บไซต์ Bored Panda ได้หยิบเรื่องราวนี้มานำเสนอให้ได้ชมกันเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2560

  
         ซาบรีน่า เผยว่า พวกเราตัดสินใจรับมันเลี้ยงไว้ในทันที จากนั้นก็พามันไปดูแลรักษาร่างกายให้แข็งแรง ซื้ออาหารให้มันกิน ซื้อบ้านสุนัขให้มันอยู่ คอยจูงมันออกไปเดินเล่น เช่นเดียวกับสุนัขสัตว์เลี้ยงตัวอื่น ๆ แต่ไม่เพียงเท่านั้น เพราะหลังจากรับเจ้าเนเกามาดูแลได้สักพัก ทั้งคู่ก็ตัดสินใจให้มันมาเป็นหนึ่งในสมาชิกพนักงานที่ปั๊มด้วยกัน  มีหมวกให้ใส่ แถมมีป้ายพนักงานห้อยคอให้ด้วย

 
          หน้าที่ของเจ้าเนเกาก็คืองานดูแลลูกค้า ซึ่งก็ดูเหมือนว่ามันจะทำได้เป็นอย่างดีเชียวล่ะ เจ้าเนเกาจะนั่งคอยให้มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการ และเมื่อมีคนมามันก็จะเข้าไปทักทาย ด้วยเสน่ห์และความน่าเอ็นดูของมัน ทำให้บรรดาลูกค้าที่ได้เจอต่างพากันหลงรักมันแทบทุกคน จนถึงขนาดบางคนจำได้และนำของเล่นมาให้กับมันบ่อย ๆ 

 
          สุดท้ายนี้ ซาบรีน่า ได้เผยว่า "พวกเราหวังว่าการช่วยรับเจ้าเนเกามาดูแลเช่นนี้ จะช่วยเป็นตัวอย่างที่ดีที่ทำให้สถานที่อื่น ๆ อยากจะสงเคราะห์สัตว์รับมันไปดูแลเช่นเดียวกันนี้"



ภาพจาก Sabrina Plannerer
http://pet.kapook.com/view166150.html

Tuesday, February 7, 2017

ฝันเป็นจริง คุณยายได้พบลูกสาวที่เฝ้าตามหา หลังพลัดพรากกันนาน 77 ปี




      เผยเรื่องราวชวนน่าอัศจรรย์ใจ เมื่อคุณยายวัยชราตามหาลูกสาวที่ต้องแยกจากกันไปตั้งแต่เกิดมาเกือบทั้งชีวิต ได้มาเจอลูกสาวอีกครั้งเมื่อเธออายุมากถึง 77 ปี และป่วยเป็นโรคหัวใจ

       ตลอดช่วงชีวิตเกือบศตวรรษของ มินก้า ดิสโบรว์ เธอพยายามที่จะค้นหาที่อยู่ของลูกสาวของเธอ ที่เธอจำต้องปล่อยให้ทางศูนย์สงเคราะห์เป็นคนจัดการดูแลไป เนื่องจากลูกสาวของเธอคนนี้ เกิดจากการที่เธอถูกข่มขืน เมื่อครั้งเป็นวัยรุ่นอายุได้เพียง 17 ปีเท่านั้น จนเวลาผ่านไปเนิ่นนาน คุณยายมินก้า หมดหวังที่จะพบตัวลูกสาวของเธอแล้ว สิ่งเดียวที่เธอมีเกี่ยวกับลูกสาวของเธอในตอนนี้ คือภาพถ่ายขาว-ดำเพียงใบเดียว ที่ปรากฏให้เห็นลูกสาววัยทารกห่อตัวนอนอยู่ในผ้าห่ม


     มินก้า เป็นลูกสาวของผู้อพยพชาวดัตช์ มีช่วงชีวิตในวัยเด็กที่ลำบาก ต้องทำงานอยู่ในฟาร์มโคนม จนกระทั่งเมื่อปี 1928 (พ.ศ. 2471) ในขณะที่เธอกำลังเพลิดเพลินกับการปิกนิกในช่วงฤดูร้อน อยู่ ๆ ก็เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น มินก้าและอลิซาเบธ เพื่อนสาว ถูกชาย 3 คน เข้ามาจู่โจมและข่มขืน แต่เธอและเพื่อนก็ไม่ยอมบอกเรื่องนี้ให้กับครอบครัวทราบ จนกระทั่งมินก้าตั้งท้องขึ้นมา แม่และพ่อเลี้ยงของเธอจึงส่งตัวเธอไปอยู่ที่บ้านคริสตจักรลูเธอร์แรน หลังจากนั้นเธอก็ให้กำเนิดลูกน้อยออกมา มีผมสีบลอนด์ และตั้งชื่อให้ว่า เบ็ตตี้ เจน

 
       หลังจากนั้น มินก้าก็ต้องกลับไปอยู่ที่บ้าน แต่เธอไม่สามารถนำลูกน้อยกลับไปด้วยได้ จึงได้ตัดสินใจยกให้คนอื่นรับไปเลี้ยงแทน ซึ่งโชคดีเป็นอย่างมากที่ขณะนั้น บาทหลวงและภรรยาของเขากำลังอยากรับเด็กไปเลี้ยงเป็นลูกอยู่พอดี จึงได้รับหนูน้อยเบ็ตตี้ เจน ไปเป็นลูกบุญธรรม แม้ว่ามินก้าจะไม่เคยพบกับพ่อ-แม่อุปถัมภ์ของลูกสาวตัวเองเลย แต่เธอก็หวังว่าลูกสาวจะมีชีวิตที่ดีขึ้น

  
      ตลอดระยะเวลาหลายปี มินก้าพยายามเขียนจดหมายหลายสิบฉบับส่งไปที่ศูนย์ตัวแทนดูแลเรื่องการอุปถัมภ์ลูกของเธอ เพื่อทราบข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องลูกของเธอ ซึ่งทางศูนย์ก็ให้ความหวังว่าจะอัพเดทให้เธอทราบ จนกระทั่งทางศูนย์มีการเปลี่ยนแปลงการจัดการดูแลไป ความปรารถนาที่จะได้ทราบเรื่องราวของลูกสาวเธอก็เลือนรางไป แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังไม่เลิกล้มความตั้งใจ

       "โอ้ พระเจ้า ขอแค่ให้ฉันได้พบเธอ (ลูกสาว) ฉันสัญญาว่าจะไม่ยุ่งยากกวนใจอะไรเธอเลย"
มินก้า อธิษฐานขอพร

       หลายปีผ่านไป มินก้าได้แต่งงานกับพ่อค้าผลไม้ และมีลูกด้วยกัน 2 คน เธอมุ่งมั่นทำงานหนักถึง 3 งาน และย้ายที่อยู่ไปหลายที่ จนในที่สุดเธอก็ลงหลักปักฐานอยู่แถวย่านแซนเคลเมนที ในเมืองแซนดีเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ แต่ถึงเธอจะมีชีวิตและครอบครัวใหม่ ในทุกวันที่ 22 พฤษภาคมของทุกปี ซึ่งตรงกับวันเกิดของเบ็ตตี้ เจน เธอก็ยังนึกถึงลูกอยู่เสมอ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้

       จนกระทั่งเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2006 (พ.ศ. 2549) มินก้าก็ได้รับโทรศัพท์จากชายคนหนึ่ง จากรัฐแอละแบมา หลังจากนั้นเขาก็ได้แนะนำตัวว่าชื่อไบรอัน ลี เป็นหลานชายแท้ ๆ ของเธอ โดยเป็นลูกชายของเบ็ตตี้ เจน ซึ่งปัจจุบันใช้ชื่อว่า รูธ ลี

       ตอนนี้ รูธ ลี มีครอบครัวและมีลูกด้วยกัน 6 คน จนกระทั่งพออายุ 70 ปี เธอก็ป่วยด้วยโรคหัวใจ คุณหมอจึงต้องการข้อมูลทางการแพทย์เกี่ยวกับเธอ ลูกชายของรูธจึงสืบจากประวัติการรับเลี้ยงของคุณแม่ จนในที่สุดก็ได้มาพบกับมินก้า ผู้ซึ่งเป็นยายแท้ ๆ ของเขาเอง และนั่นทำให้เขาพูดไม่ออก เพราะไม่เคยคิดมาก่อนว่าคุณยายของเขาจะยังคงมีชีวิตอยู่

       หลังจากนั้นหนึ่งเดือน ความฝันของมินก้า ตลอดระยะเวลากว่า 70 ปี ก็เป็นจริง การรอคอยได้สิ้นสุดลง เมื่อไบรอันได้พาคุณแม่ในวัย 77 ปี บินไปหาคุณยายมินก้าที่แคลิฟอร์เนีย วินาทีที่ทั้งคู่ได้พบหน้ากันได้ เมื่อมินก้าพบกับลูกสาวทั้งสองต่างโผเข้าสวมกอดกัน แม้ไม่เคยได้เห็นหน้ากันมาก่อน แต่ก็สามารถสัมผัสถึงสายใยความรักของแม่และลูกที่ไม่เคยตัดขาดจากกันได้

       "เหมือนเราไม่เคยแยกจากกัน มันเป็นเรื่องน่าเหลื่อเชื่อและน่าอัศจรรย์มาก ยังรู้สึกว่าเป็นความฝันอยู่เลย" มินก้า กล่าว


ภาพจาก Tyndale House Publishers
ข้อมูลจาก lifebuzz.com
https://hilight.kapook.com/view/148821