เรื่องราวแสนซาบซึ้งอบอุ่นหัวใจ
ของอดีตทารกน้อยที่ถูกนำมาทิ้งในตู้โทรศัพท์
ก่อนได้ชายผิวสีใจดีช่วยเหลือเอาไว้ 22 ปีผ่านไป
เธอออกตามหาชายผู้มีพระคุณ จนได้พบเขาอีกครั้ง ราวกับฝันที่เป็นจริง ทั้งคู่ยังคงคิดถึงกันอยู่เสมอ
เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคาม 2559 เว็บไซต์ Boredpanda เผยเรื่องราวที่ชวนอุ่นซ่านในหัวใจ เป็นเรื่องราวของของอดีตเด็กน้อยกำพร้าชาวอังกฤษที่ถูกทิ้งตั้งแต่แบเบาะ กับชายผู้ช่วยชีวิตเธอเอาไว้ แม้เรื่องราวจะผ่านมาแสนนานร่วม 20 กว่าปี แต่พระคุณครั้งนั้นเธอไม่เคยลืมเลือนเลย
เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคาม 2559 เว็บไซต์ Boredpanda เผยเรื่องราวที่ชวนอุ่นซ่านในหัวใจ เป็นเรื่องราวของของอดีตเด็กน้อยกำพร้าชาวอังกฤษที่ถูกทิ้งตั้งแต่แบเบาะ กับชายผู้ช่วยชีวิตเธอเอาไว้ แม้เรื่องราวจะผ่านมาแสนนานร่วม 20 กว่าปี แต่พระคุณครั้งนั้นเธอไม่เคยลืมเลือนเลย
ในปี 1994 ไคเรน ชีค เพิ่งจะมีอายุเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนถูกแม่ของเธอนำไปวางทิ้งไว้ในตู้
โทรศัพท์ในกรุงลอนดอน แม้จะโทรไปแจ้งศูนย์ช่วยเหลือให้มาช่วยลูกเธอด้วย แต่ก่อนเจ้าหน้าที่ของศูนย์จะมาพบ
ก็มีชายผิวสีใจดียื่นมือเข้ามาช่วยเหลือทันทีที่พบว่าสิ่งที่เขาเข้าใจว่า เป็นถุงมันฝรั่งทอดที่ถูกทิ้งไว้
ที่จริงเป็นทารกน้อย ๆ ต่างหาก
โจ แคมป์เบล ซึ่งอายุ 30 ปีในตอนนั้น อุ้มทารกน้อยไปแจ้งขอความช่วยเหลือ พร้อมยังได้ขอรับอุปการะเลี้ยงดูทารกคนนี้ไว้เองด้วย ทว่าเขาไม่สมหวัง เนื่องจากไม่ผ่านเงื่อนไขในข้อที่ต้องเป็นบุคคลสมรสแล้ว โจได้แต่ส่งของขวัญวันเกิดให้ไคเรน แต่ทำได้เพียง 5 ปี ทางมูลนิธิก็วอนให้เขาตัดขาดกับเด็กหญิงเสียดีกว่า โดยสิ่งเดียวที่เขามีคือรูปใบหนึ่งที่เขาถ่ายกับทารกน้อยคนนี้ และได้เก็บรักษามาตลอด
"ฉันกำลังตามหาคนที่ช่วยชีวิตฉันไว้ ชื่อของเขาคือ โจ หรือไม่ก็ จอห์น แคมป์เบล" ข้อความในประกาศระบุดังว่า และไม่น่าเชื่อว่าเธอจะหาเขาพบด้วยวิธีนี้จริง ๆ
โจและไคเรน ได้นัดพบกันเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคมที่ผ่านมา ที่สำนักงานเมโทรในกรุงลอนดอน ทุกอย่างราวฝันที่เป็นจริง ที่ทั้งคู่ได้หวนมาพบกันอีกครั้ง
"โจบอกฉันว่า ใคร ๆ ก็คงจะช่วยฉันไว้อย่างที่เขาทำ
แต่ที่จริงไม่มีใครช่วยฉันเลย มันมหัศจรรย์มากเลยค่ะ ที่ได้เจอกับเขาอีกครั้ง
เขาคือฮีโร่ของฉันจริง ๆ"
ขณะที่โจ ซึ่งตอนนี้แต่งงานและมีลูก ๆ แล้ว ก็บอกว่า "นี่เป็นวันที่ผมมีความสุขมากที่สุดในชีวิต ผมไม่เคยหยุดคิดถึงเธอเลย แต่ก็ไม่เคยคิดว่าจะได้มีวันนี้เหมือนกัน"
ถึงไคเรนจะเติบโตมาอย่างกำพร้า แต่ในตอนนี้เธอก็ได้มีครอบครัวที่รอคอยให้เธอกลับไปหาแล้ว โจเผยว่า ครอบครัวของเขารอคอยอยากพบเธอมาก ๆ ทั้งภรรยา และลูก ๆ ทั้งห้า ซึ่งที่ผ่านมา เขาเล่าและพูดถึงไคเรนให้ลูก ๆ ฟังเสมอ ว่าเธอก็เป็นเหมือนลูกบุญธรรมและเป็นพี่สาวของพวกเขาด้วยนั่นเอง
ขณะที่โจ ซึ่งตอนนี้แต่งงานและมีลูก ๆ แล้ว ก็บอกว่า "นี่เป็นวันที่ผมมีความสุขมากที่สุดในชีวิต ผมไม่เคยหยุดคิดถึงเธอเลย แต่ก็ไม่เคยคิดว่าจะได้มีวันนี้เหมือนกัน"
ถึงไคเรนจะเติบโตมาอย่างกำพร้า แต่ในตอนนี้เธอก็ได้มีครอบครัวที่รอคอยให้เธอกลับไปหาแล้ว โจเผยว่า ครอบครัวของเขารอคอยอยากพบเธอมาก ๆ ทั้งภรรยา และลูก ๆ ทั้งห้า ซึ่งที่ผ่านมา เขาเล่าและพูดถึงไคเรนให้ลูก ๆ ฟังเสมอ ว่าเธอก็เป็นเหมือนลูกบุญธรรมและเป็นพี่สาวของพวกเขาด้วยนั่นเอง
ภาพจาก
boredpanda
http://hilight.kapook.com/view/140206
No comments:
Post a Comment