Sunday, November 22, 2015

เปิดเรื่องราว "ป่าสนโค้งงอ" เรื่องลึกลับที่ยังคงเป็นปริศนาจนทุกวันนี้




          ธรรมชาติมักจะสรรค์สร้างสิ่งมหัศจรรย์ชวนฉงนให้มนุษย์ได้ทึ่งและหาคำตอบ กันไม่จบไม่สิ้น หลายอย่างก็ถูกไขจนกระจ่างภายในเวลาไม่นาน แต่หลายอย่างกลับกลายเป็นปริศนาคาใจมนุษย์อย่างเนิ่นนาน แม้เวลาผ่านไปเกือบ 100 ปี ก็ยังไม่มีคำตอบ ดังเช่นเรื่องราวของ "ป่าสนโค้งงอ" ในประเทศโปแลนด์ ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้

           ครุ๊ก ฟอเรส (Crooked Forest) หรือ ป่าสนโค้งงอ ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าในหมู่บ้าน Nowe Czarnowo ทางตอนใต้ของนครสเชชเซ็นใน โปแลนด์ ในป่าแห่งนี้มีต้นสนกว่า 400 ต้นที่มีลักษณะของลำต้นช่วงล่างที่ผิดปกติไป คือลำต้นนั้นมีลักษณะโค้งงอบริเวณโคนต้น ก่อนที่จะตั้งตรงดังเช่นต้นไม้ทั่ว ๆ ไป ซึ่งส่วนนี้เองที่ได้สร้างความประหลาดใจเป็นอย่างมาก เพราะหากดูเผิน ๆ แล้วราวกับว่าต้นไม้พวกนี้มันกำลังหย่อนก้นลงพื้นนั่งพักอยู่ยังไงยังงั้น


               ชาวบ้านเชื่อกันว่า สนโค้งงอเหล่านี้ถูกปลูกขึ้นมาตั้งแต่ปี 1930 (พ.ศ. 2473) แต่ไม่มีผู้ใดทราบว่ามันมีลักษณะโค้งงอเช่นนี้ได้อย่างไร หรือ มีใครเป็นคนปลูกและปลูกด้วยจุดประสงค์ใด ซึ่งเป็นปริศนามานานกว่าหลายสิบปีแล้ว

           แต่ถึงอย่างนั้น ได้มีทฤษฎีหลากหลายเหตุผลมาอธิบายปรากฏการณ์ดังกล่าวอย่างมากมาย บ้างก็กล่าวว่า ต้นสนเหล่านี้โค้งงอเพราะมีสาเหตุมาจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติซึ่งเกิดจาก สนามโน้มถ่วงของโลก หรือเกิดจากพายุหิมะถล่มทับมันไปช่วงเวลาหนึ่งที่นานพอที่จะทำให้รูปร่างของ มันโค้งงอ ก่อนที่มันจะกลับมาเจริญเติบโตตามปกติหลังจากหิมะหมดไป


          ส่วนบางคนก็ได้ระบุว่า เกิดจากรถถังของโซเวียตในช่วงสมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง วิ่งทับต้นกล้าของต้นสนเหล่านี้ ทำให้มันเติบโตมาผิดรูปเช่นนี้

           และในขณะเดียวกัน ก็มีคนอีกกลุ่มหนึ่งเชื่อกันว่า ช่างไม้ชาวป่าในอดีตตั้งใจปลูกสนเหล่านนี้ขึ้นมา โดยดัดให้มันมีลักษณะโค้งงออย่างจงใจ เพื่อที่จะนำไม้สนเหล่านี้ไปทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่มีรูปร่างเฉพาะขาย แต่โชคร้ายที่ชาวบ้านชาวป่าเหล่านั้นเสียชีวิตจากไปเสียก่อนที่จะต้นสนเหล่า นี้จะเติบโตจนสามารถตัดได้


               อย่างไรก็ดีนับตั้งแต่บัดนั้นจนถึงทุกวันนี้เรื่องราวของป่าสนโค้งงอนี้ก็คง เป็นปริศนาอยู่ ซึ่งไม่มีใครสามารถรู้ได้ว่าที่มาที่แท้จริงของมันเป็นอย่างไร.. โดยในปัจจุบันป่าสนโค้งงอแห่งนี้ได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อ เสียงแห่งหนึ่งในประเทศโปแลนด์ ที่เปิดให้บรรดานักท่องเที่ยวได้เข้ามาชมความสวยงามตามธรรมชาติของมัน หรือใครอยากจะเข้าไปนั่งจินตนาการแบบเพลิน ๆ ว่าอยู่ในเทพนิยายแฟนตาซีก็ได้ตามสบาย








http://hilight.kapook.com/view/129487

No comments:

Post a Comment